อำเภอแม่สาย


เหนือสุดยอดในสยาม ลือนามพระธาตุเจ้าดอยตุง ผดุงวัฒนธรรมล้านนา เปิดมรรคาสู่อินโดจีน แผ่นดินพระเจ้าพรหมมหาราช

ประวัติความเป็นมา
           แม่น้ำสายเดิมชื่อแม่น้ำใสและเมืองแม่สายเดิมคือ เวียงสี่ตวงขึ้นกับแคว้นโยนกนครปรากฏหลักฐานตามประวัติศาสตร์ตำนานสิงหนวัต)เมื่อปีพ.ศ.1462 พระเจ้ามังคราช เจ้าผู้ครองแคว้นโยนกถูกขอมดำรุกราน จึงอพยพ ราษฎรมาอยู่ริมแม่น้ำสาย ต้องส่งส่วยให้ขอมดำเป็นทองคำปีละ 4 ตวง หมากพินลูกเล็ก (มะตูม) จึงได้ชื่อ "เวียงสี่ตวง" ต่อมาพระเจ้าพรหมมหาราช พระราชโอรสของพระเจ้าพังคราช ได้เปลี่ยนชื่อเมือง "เวียงสี่ตวง" เป็น "เวียงพางคำ" อันหมายถึง พานคำที่ใช้ตีเชิญช้างคู่บารมีของพระองค์ขึ้นจากน้ำของ(แม่น้ำโขง) จนสามารถกอบกู้แคว้นโยนกนครจากขอมดำได้สำเร็จ ต่อมาเวียงพานคำ ได้เพี้ยนเป็นเวียงพางคำ คือ พื้นที่ตำบลเวียงพางคำในปัจจุบันนี้



อำเภอแม่สาย

              อำเภอแม่สาย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 61 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 110 เป็นอำเภอเหนือสุดของประเทศไทย ติดกับจังหวัดท่าขี้เหล็กของพม่า โดยมีแม่น้ำแม่สายเป็นพรมแดน มีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกัน ทั้งชาวไทยและชาวพม่าเดินทางไปมาหาสู่ค้าขายกันได้โดยเสรี สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางไปยังท่าขี้เหล็กของพม่า เพื่อซื้อสินค้าพื้นเมืองและสินค้าราคาถูกอื่นๆ เช่น ตะกร้า เครื่องทองเหลือง สบู่พม่า สมุนไพร การข้ามไปท่าขี้เหล็ก นักท่องเที่ยวชาวไทย เดินทางเข้าเขตประเทศพม่าได้ ทุกวัน ระหว่างเวลา 06.30-18.30 น. โดยใช้บัตรประชาชน หรือบัตรอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ ค่าบริการคนละ 40 บาท สินค้าที่ไม่อนุญาตให้ซื้อเข้ามาได้แก่ สินค้าจากซากสัตว์ป่า บุหรี่ และสุราต่างประเทศ




พระธาตุดอยเวา


               พระธาตุดอยเวา ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลแม่สาย ก่อนถึงชายแดนแม่สายประมาณ 100 เมตร บนดอยริมฝั่งแม่น้ำแม่สาย ตามประวัติกล่าวว่า พระองค์เวาหรือเว้าผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์ เป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุองค์หนึ่งเมื่อ พ.ศ. 364 นับเป็นพระบรมธาตุที่เก่าแก่องค์หนึ่งรองมาจากพระบรมธาตุดอยตุง นอกจากนี้บนดอยเวายังเป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ของอำเภอแม่สาย และท่าขึ้เหล็กทางฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน สามารถนำรถขึ้นไปจนถึงพระธาตุได้



ถ้ำผาจม

                 ถ้ำผาจม ตั้งอยู่หมู่1 ตำบลแม่สาย อยู่ห่างจากตำบลแม่สาย ไปทางทิศเหนือประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถ้ำผาจมตั้งอยู่บนดอย อีกลูกหนึ่งทางทิศตะวันตกของดอยเวา ติดกับแม่น้ำสาย เคยเป็นสถานที่ซึ่ง พระภิกษุสงฆ์นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนา เช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีรูปปั้นพระอาจารย์มั่น ภูริตโต ประดิษฐานไว้บนดอยด้วย ภายในถ้ำผาจมมี หินงอกย้อยอยู่ตามผนังและเพดานถ้ำ สวยงามวิจิตรตระการตา



ถ้ำปลา


                   เป็นถ้ำหนึ่งที่มีน้ำไหลภายในถ้ำ เคยมีปลาชนิดต่างๆ ทั้งใหญ่น้อยว่ายออกมาให้เห็นเป็นประจำ ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปศิลปะพม่าสร้างขึ้นโดยพระภิกษุชาวพม่าประชาชนทั่วไปเรียกว่าพระทรงเครื่องเป็นที่เลื่อมใสขอประชาชนในแถบนี้



ถ้ำเสาหินพญานาค


                   เป็นถ้ำที่อยู่ปลายสุดของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ หมู่ที่ 3 บ้านถ้ำปลา การเดินทางไปถ้ำนี้สามารถไปได้ ทั้งทางน้ำและทางบก โดยการเดินลัดเลาะตามขอบอ่างเก็บน้ำทางทิศใต้ปากถ้ำวัดความกว้างได้ ประมาณ 4.70 เมตรสูงประมาณ 2.40 เมตรลักษณะของถ้ำเป็นโพรงสูงขึ้นในแนวดิ่งหินงอกมีลักษณะเป็นแท่ง ๆ ซ้อนกันคล้ายเสาบ้านชาวบ้านจึงเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำเสาหิน ซึ่งมีลักษณะเป็น 3 ชั้น


ที่มา : http://www.tourismchiangrai.com    วันที่ 10 มกราคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น